วันเสาร์, กันยายน 30, 2023
spot_img

ริคาร์โด้ กาก้า ตำนานเพลย์เมกเกอร์หน้าหล่อ

ริคาร์โด้ กาก้า ตำนานเพลย์เมกเกอร์หน้าหล่อ

ริคาร์โด้ กาก้า ตำนานเพลย์เมกเกอร์หน้าหล่อ

ริคาร์โด้ กาก้า เมื่อเราจะพูดถึงยุคสมัยที่ทีมดังจากอิตาลี อย่าง เอซี มิลาน (AC Milan) ก้าวขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่ในช่วงปี 2000 ต้นๆ ได้ ทั้งในอิตาลีและบนเวทียุโรป เราก็ย่อมคิดถึงนักเตะชื่อดังของทีม อย่าง อังเดร เชฟเชนโก้, เปาโล มัลดินี่, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ และคนอื่นๆอีกหลายคน แต่ที่แน่นอนว่าจะขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือชื่อของ “ริคาโด้ กาก้า”

เพราะนี่คือชื่อของ เพลย์เมกเกอร์ ทีมชาติบราซิล ที่มีฝีเท้าอันฉกาจฉกรรจ์ แถมยังมีหน้าตาที่หล่อเหลา จนเรียกได้ว่าเข้าขั้น นายแบบ ซึ่งความเก่งกาจและความสำคัญ ของ “กาก้า” ทำให้เขากลายเป็นกำลังหลักของขุนพล รอสเซโนรี่ (Rossoneri) ในการก้าวขึ้นมาท้าทายความยิ่งใหญ่บนเวทียุโรป หลังจากที่ห่างหายไปอยู่พักใหญ่ หลังยุค 3 ทหารเสือ ของฮอลแลนด์

นอกจากชื่อเสียงของการเป็นนักฟุตบอล ที่มีฝีเท้าดี ที่โดด่งดังอย่างมาก ทั่วทั้งโลกแล้ว ในประเทศไทยของเราเอง “กาก้า” ก็ยังได้กลายเป็นไวรัล ชนิดที่ดังไปทั้งประเทศ ด้วยคำที่ได้ยินกันจนติดหูว่า “ผีกาก้า” ดังนั้นในบทความ เปิดประวัตินักฟุตบอล ของเราในวันนี้ จะพาไปดูเรื่องรางของชีวิต “ริคาโด้ กาก้า” นักฟุตบอลเทพบุตร แห่งกองทัพเซเลเซา

ประวัติส่วนตัว “กาก้า”

ริคาร์โด้ กาก้า ตำนานเพลย์เมกเกอร์หน้าหล่อ

“ริคาร์โด้ อิเซคสัน ดอส ซานโตส ไลเต้” เป็นชื่อจริงที่ยาวมากของนักเตะที่เรารู้จักกันดี ในนามของ “กาก้า” โดยพ่อหนุ่มยอดนักเตะสุดหล่อคนนี้ เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน ปี 1982 ในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของประเทศ บราซิล โดยที่มาของชื่อที่เรียกติดปากกันว่ากาก้านั้น มาจากการที่น้องชายของเขาไม่สามารถเรียกชื่อคำว่า “ริคาโด้” ได้ จึงเรียกชื่อหลังว่า กาก้า แทน

จริงๆ แล้ว กาก้าเคยประสบอุบัติเหตุ จนเกิดอาการ ประดูกสันหลังร้าว ซึ่งมันอยู่ในระดับรุนแรง จนเขาเกือบไม่ได้เป็นนักฟุตบอลแล้ว เพราะเกือบจะต้องเป็นอัมพาต แต่หลังจากนั้น 1 ปี กาก้า ที่มุ่งมั่นที่จะเล่นฟุตบอล ก็สลับอาการเจ็บเหล่านั้น จนกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง ก็ฟิตเต็มที่และกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ซึ่งเขาก็เชื่อว่า นั่นคือความประสงค์ของพระเจ้า

ประวัติการค้าแข้ง ระดับสโมสร

ริคาร์โด้ กาก้า ตำนานเพลย์เมกเกอร์หน้าหล่อ

“กาก้า” เริ่มเปิดฉากชีวิตการค้าแข้งในระดับอาชีพ กับสโมสร “เซา เปาโล” เมื่อปี 2001 โดยก่อนหน้านี้เขานั้นเกือบที่จะโดนขายให้กับ กาซิอันเทปสปอร์ แต่สโมสรจากลีกตุรกี ไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินค่าตัว ให้กับ เซา เปาโล แต่นั่นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยน เพราะ กาก้า นั้นเล่นกับทีมในฤดูกาลแรกก็ยิงไปถึง 12 ประตู จาก 27 เกม และก็ฟอร์มดีต่อเนื่องจนกดไปอีก 10 ประตู จาก 22 เกมในฤดูกาลต่อมา

ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทั้งยิงประตูได้และสร้างสรรค์เกมได้แบบสุดยอด จึงทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่จากอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน จ้องตาเป็นมันและคว้าเขามาร่วมทีมได้ ในปี 2003 โดยเขาใช้เวลาแค่เพียงไม่นาน ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดใหญ่ได้แล้ว โดยในฤดูกาลแรก เขายิงได้ 10 ประตู จาก 30 นัด ซึ่งทำให้เขาคว้าแชมป์ สคูเด็ดโต้ และยูโรเปี้ยนซุปเปอร์คัพได้อีกด้วย

ด้วยผลงานการเล่น ที่ดีวันดีคืน ทำให้กาก้านั้นสามารถพาทีมเข้าไปชิงชนะเลิศ ถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก ในฤดูกาล 2004-2005 ได้ แต่ก็ต้องพลาดหวังไป เพราะแพ้การดวลจุดโทษ กับ ลิเวอร์พูลไปแบบเจ็บปวดสุดๆ แต่เขาก็สามารถแก้ตัวได้สำเร็จ เมื่อฤดูกาล 2006–2007 นั้น เขาสามารถพาเอซีมิลาน เข้าชิงถ้วยหูโตได้อีกครั้ง โดยเขาสามารถล้างตากับทีม “หงส์แดง” คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

ในปี 2009 ที่ เรอัล มาดริด กำลังจะสร้างทีม กาลาติกอส ยุคที่ 2 โดยเขาตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในทีมราชันชุดขาว ด้วยสนนราคาถึง 67.2 ล้านยูโร ซึ่งเขาอยู่กับทีมไปจนถึงปี 2013 แต่ชีวิตในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของเขาเต็มไปด้วยอุปสรรค เพราะเขาต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บเสียเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งนั่นทำให้เขาย้ายกลับไปอยู่กับทีม ปีศาจแดงดำ อีกครั้ง ในฤดูกาล 2013 – 2014 ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่เขาอายุมากขึ้นละร่างกาย ไม่ได้ดีเหมือนเดิม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ ย้ายไปอยู่กับทีม ออแลนโด้ ซิตี้ ใน เมเจอร์ลีก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาอยู่ที่นั่นตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปี 2017 และประกาศแขวนสตั๊ดเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ กับที่นี่เป็นทีมสุดท้าย

ประวัติการค้าแข้ง ระดับชาติ

ริคาโด้ กาก้า เล่นนัดแรกกับทีมชาติ ในเกมที่พบกับ โบลิเวีย ปี 2002 ซึ่งเขาติดทีมชาติบราซิล แต่เขาลงเล่นไปแค่ 19 นาที เท่านั้น แต่สำหรับฟุตบอลโลก ในปี 2006 กาก้าถือเป็นคนสำคัญ ที่พาทีมชาติบราซิลเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ไม่ว่าจะฟอร์มดีแค่ไหนทีมชาติบราซิลชุดนั้น ก็ไม่สามารถไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกได้

เกียรติประวัติ ในระดับสโมสร

เซาเปาโล
  • แชมป์ โคปปา เซาเปาโล เดอ จูเนียร์ ปี 2000
  • แชมป์ ทอร์นีโอ ริโอ ปี 2001
  • แชมป์ ซุปเปอร์ คัมปิโอนาโต เปาลิสต้า ปี 2002
เอซี มิลาน
  • แชมป์ ยูโรเปี้ยน ซูปเปอร์ คัพ ปี 2003, 2007
  • แชมป์ เซเรีย อา ปี 2004
  • แชมป์ อิตาเลียน ซูปเปอร์ คัพ ปี 2004
  • แชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2007
  • แชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก ปี 2007 

เกียรติประวัติ ในระดับทีมชาติ

  • แชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2002
  • แชมป์ คอนเฟเดอเรชั่นส์คัพ ปี 2005 และ 2009

รางวัลส่วนตัว

  • นักเตะยอดเยี่ยม กัลโช่เซเรียอา ปี 2004 และ 2007
  • นักเตะยอดเยี่ยมของยูฟ่า ปี 2007
  • นักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ปี 2007
  • รางวัล บัลลงดอร์ ปี 2007

อ่านประวัตินักฟุตบอล เพิ่มเติมที่ :: Warpballsod.net

ดูบอลสดฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทีเด็ดฟรีๆ จากเหล่าเซียนดัง :: Warpballsod.net

Related Articles

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Stay Connected

0แฟนคลับชอบ
3,875ผู้ติดตามติดตาม
- Advertisement - spot_img

Latest Articles